“SCB 10X” ประกาศร่วมลงทุนใน “Sunday” เดินหน้าภารกิจ Moonshot Mission สร้างขีดความสามารถใหม่ทางเทคโนโลยี

เอสซีบี เท็นเอกซ์ (SCB
10X) เดินหน้าภารกิจ Moonshot Mission (มูนช็อต มิชชั่น)
มุ่งลงทุนในบริษัทเทคคอมพานี และสตาร์ทอัพที่มีศักยภาพทั่วโลก
เพื่อสร้างขีดความสามารถใหม่ทางด้านเทคโนโลยีผ่านการลงทุนที่สามารถสร้างการเติบโตแบบก้าวกระโดด
ล่าสุด ประกาศเป็นหนึ่งในผู้ร่วมลงทุนหลัก (lead investor) ร่วมกับ Vertex Ventures Southeast Asia and
India, Quona Capital และ LINE Ventures ในการระดมทุนระหว่างรอบ (bridge round) ของ
“ซันเดย์” (Sunday) กลุ่มบริษัท
อินชัวร์เทค โดยเป็นการระดมทุนครั้งสำคัญก่อนรอบ Series B โดย “ซันเดย์” มีเป้าหมายที่จะนำเงินที่ได้จากการระดมทุนไปพัฒนาขยายธุรกิจในประเทศไทยและประเทศอินโดนีเซีย
อีกทั้งยังต่อยอดพัฒนาแพลตฟอร์ม ผลิตภัณฑ์ประกันสุขภาพกลุ่มและซูเปอร์แอปฯ
เพื่อให้การบริการลูกค้าประกันสุขภาพและประกันรถยนต์สามารถทำได้อย่างครบวงจรต่อไป
นางมุขยา พานิช Chief
Venture and Investment Officer บริษัท เอสซีบี เท็นเอกซ์ จำกัด
กล่าวว่า “เป้าหมายของ
SCB 10X คือ
การต่อยอดสร้างธุรกิจใหม่ ท่ามกลางโลกธุรกิจยุคปัจจุบันที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี
ดังนั้น บทบาทหน้าที่ของ SCB
10X จะมุ่งเน้นการสร้างขีดความสามารถใหม่ทางด้านเทคโนโลยีผ่านการลงทุนที่สามารถสร้างการเติบโตแบบก้าวกระโดด
(Invest in Exponential
Opportunities) ภายใต้ภารกิจที่เรียกว่า “Moonshot Mission” (มูนช็อต
มิชชั่น) ผ่านหนึ่งในธุรกิจหลักคือ Venture Capital (VC) ซึ่งลงทุนในบริษัทเทค คอมพานี
และสตาร์ทอัพที่มีศักยภาพทั่วโลก โดยมุ่งลงทุนใน 5 ธุรกิจหลัก คือ บริการด้านการเงิน (Fintech), เทคโนโลยีดิจิทัลในอนาคตสำหรับการทำงานและไลฟ์สไตล์
(Future Digital of
Working and Lifestyle), บริการสุขภาพ และความเป็นอยู่ที่ดี (Healthcare and Wellness), การเชื่อมโยงสู่โลกอินเทอร์เน็ตInternet of Things (IoT-enabled
world) และเทคโนโลยีเชิงลึก (Deep Tech)”
“SCB 10X มีความยินดีที่ได้เข้าร่วมเป็นหนึ่งในผู้ลงทุนหลักของซันเดย์ซึ่งเป็นสตาร์ทอัพไทยที่มีศักยภาพ ขยายธุรกิจและเติบโตอย่างรวดเร็ว มีความสามารถในการนำดาต้าและเทคโนโลยีมาใช้ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการประกันภัย อีกทั้งยังเป็นกลุ่มบริษัทอินชัวร์เทคแห่งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่มีใบอนุญาตสำหรับให้บริการรับประกันภัยทำให้สามารถให้บริการลูกค้าได้อย่างครบวงจร ประกอบกับการที่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นภูมิภาคที่มีผู้ใช้งาน Mobile Internet มากที่สุดในโลกเป็นจำนวนกว่า 360 ล้านผู้ใช้งาน นั่นทำให้เป็นตลาดที่น่าสนใจสำหรับบริษัทด้านประกันภัยและเทคโนโลยีในการนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการแบบรายบุคคลให้กับลูกค้า” นางมุขยา พานิช กล่าวเสริม
นางสาวซินดี้ กัว ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ร่วมก่อตั้ง บริษัท ซันเดย์
อินส์ จำกัด กล่าวว่า “ครั้งนี้เป็นการระดมทุนระหว่างรอบ
(bridge round) ของบริษัทฯ
มูลค่า 9
ล้านเหรียญสหรัฐฯ ก่อนรอบ Series
B ที่กำลังจะมาถึง
โดยได้รับความสนใจจากผู้ลงทุนหลักนำโดย SCB 10X, Vertex Ventures Southeast Asia and India, Quona Capital และ
LINE Ventures ซึ่งสะท้อนว่านักลงทุนได้เล็งเห็นถึงศักยภาพในการเติบโตของซันเดย์ที่สวนทางกับภาวะเศรษฐกิจโลกที่หดตัวเนื่องจากสถานการณ์โควิด-19
การระดมทุนในครั้งนี้มีเป้าหมายที่จะนำเงินทุนไปขยายธุรกิจในประเทศไทยและประเทศอินโดนีเซีย
รวมถึงนำไปต่อยอดแพลตฟอร์มผลิตภัณฑ์ประกันสุขภาพกลุ่ม และซูเปอร์แอปฯ Sunday Service เพื่อให้บริหารลูกค้าประกันสุขภาพและประกันรถยนต์แบบครบวงจรต่อไป”
“ในขณะที่เราได้เผชิญหน้ากับความท้ายทายและความไม่แน่นอนอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน
ความต้องการของผู้บริโภคก็มีความเปลี่ยนไปอย่างมากเช่นกัน
ความต้องการที่จะเข้าถึงผลิตภัณฑ์ประกันภัยที่มีประโยชน์อย่างแท้จริง
และสามารถคุ้มครองครอบคลุมความเสี่ยงของเขาเหล่านั้นในราคาที่จับต้องได้มีสูง ซึ่ง
ซันเดย์ เรามีการวางเป้าหมายเอาไว้อย่างชัดเจนในการที่จะเป็นผู้ให้บริการการประกันภัยที่ปรับแต่งได้ตามความต้องการรายบุคคล
(Personalised insurance)
และการให้บริการแบบครบวงจรในที่เดียว (One-stop-shop) เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลาและรวดเร็ว
ไม่ว่าจะเป็นลูกค้าระดับองค์กรหรือลูกค้ารายบุคคล
เรารู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้รับการสนับสนุนจาก SCB 10X ในครั้งนี้” นางสาวซินดี้
กัว กล่าวเสริม
“ซันเดย์” ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี
พ.ศ. 2560
และได้ขยายธุรกิจอย่างรวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็นการรับประกันภัยรถยนต์
การให้บริการประกันสุขภาพกลุ่ม และการขยายการรับประกันสินค้าอิเล็กทรอนิกส์
โดยใช้รูปแบบการขายทั้ง B2B
และ B2B2C ซึ่งในปัจจุบัน “ซันเดย์” มีอัตราการเติบโตมากกว่า 100%
เมื่อเทียบกับเป้าที่วางไว้
แม้ว่าภาวะเศษฐกิจปัจจุบันจะมีการถดถอยเนื่องจากการระบาดของไวรัสโควิด-19
ก็ตาม ลูกค้าองค์กรและ SME
ต่าง ๆ ยังคงมอบความไว้วางใจและใช้บริการของ “ซันเดย์” อย่างต่อเนื่อง
เนื่องจากประกันสุขภาพกลุ่มยังเป็นสิทธิประโยชน์อันดับต้น ๆ
ที่พนักงานองค์กรต้องการเมื่อเทียบกับสิทธิประโยชน์อื่น ๆ ด้วยเหตุนี้เอง
ส่งผลให้บริการประกันสุขภาพกลุ่มของ “ซันเดย์” มีการขยายตัวอย่างรวดเร็ว
โดยปัจจุบันลูกค้าที่อยู่บนแพลตฟอร์มของซันเดย์มีกว่า 100,000
ราย
และมีแนวโน้มที่จะเติบโตอย่างก้าวกระโดดอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะอย่างยิ่งในตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
หากสถานการณ์โควิด-19
คลี่คลาย
นอกจากนี้ในช่วง 3
- 4 เดือนที่ผ่านมา “ซันเดย์” ได้เดินหน้าพัฒนาบริการใหม่อย่างต่อเนื่องและพร้อมให้ลูกค้าได้งานใช้จริง
ได้แก่ บริการวิเคราะห์อาการป่วย (Disease
symptom checker) ด้วย AI และแมชชีนเลิร์นนิง บนซูเปอร์แอปฯ ของซันเดย์
ภายใต้ชื่อ Sunday
Service อีกทั้งยังมีบริการเคลมประกันรถยนต์ด้วยตัวเอง
(Claims notification for
vehicle damages) ภายในแอปฯ
เดียวกันเพื่อช่วยให้การเคลมรถยนต์ของลูกค้าเป็นไปอย่างสะดวกและรวดเร็วมากขึ้น
นอกจากนี้ ยังเปิดให้บริการด้านสุขภาพแบบครบวงจรเพื่อเพิ่มความสะดวกให้แก่ลูกค้ามากขึ้น
ไม่ว่าจะเป็นบริการปรึกษาแพทย์ออนไลน์ (Telemedicine) ผ่านแพลทฟอร์มที่เชื่อมต่อ API กับพาร์ทเนอร์ต่าง
ๆ บริการจัดส่งหรือรับยาตามใบสั่งยาจากแพทย์ (Medication delivery) และบริการแนะนำสถานพยาบาล (Recommend hospital) ที่ใช้การเชื่อมโยงฐานข้อมูลลูกค้าเพื่อแนะนำโรงพยาบาลที่เหมาะสมในการรักษาโรคต่าง
ๆ