6 คำถามรู้จัก PayID รูปแบบชำระเงินแบบใหม่ ใช้ไอดีเดียว

เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา
Open Payments
Coalition กลุ่มพันธมิตรที่รวมบริษัทชั้นนำทางด้านเทคโนโลยี การเงิน และองค์กรไม่แสวงผลกำไร
ได้เปิดตัวรูปแบบการชำระเงินแบบใหม่ที่เรียกว่า PayID โดยจุดเด่นของระบบนี้คือการที่ให้ผู้ใช้สามารถโอนเงินได้ง่ายเหมือนกับการส่งอีเมล
ด้วยการใช้ Universal ID เพียงอย่างเดียว
แต่มีความปลอดภัยสูง และยังใช้ได้ทุกที่อีกด้วย
Moneyandbankingonline ได้สัมภาษณ์พิเศษ นายเคลวิน ลี, Head of Southeast Asia ของ Ripple ที่เป็น 1 ในแกนหลักสำคัญในการพัฒนาโครงการนี้ เพื่อให้ผู้ใช้ได้รู้จักกับ PayID ให้มากยิ่งขึ้น
เคลวิน ลี, Head of Southeast Asia ของ Ripple
PayID คืออะไร?
เคลวิน ลี : PayID เป็น ID สากลสำหรับการชำระเงินที่ใช้มาตรฐานแบบเปิดและเรียบง่ายเพื่อช่วยให้ผู้คนส่งและรับเงินได้อย่างง่ายดาย
ผ่านเครือข่ายการชำระเงินใดก็ได้ด้วยรหัสเดียว การเป็นโซลูชั่นที่เป็นสากลหมายความว่าพันธมิตรทางธุรกิจสามารถใช้
PayID เพื่อลดข้อติดขัด และสร้างความมั่นใจว่าลูกค้าของพวกเขาสามารถเข้าถึงเครือข่ายระบบชำระเงินได้มากขึ้น
กระเป๋าเงินดิจิทัล และรูปแบบการชำระเงินอื่นๆ ซึ่ง PayID มอบประสบการณ์โดยรวมที่ดีขึ้นสำหรับลูกค้า
เนื่องจากพวกเขาจะใช้เพียง ID เดียวในการชำระเงิน
ซึ่งทำให้เกิดความปลอดภัย ใช้งานสะดวก และสามารถใช้ได้กับทุกที่
ในระดับบุคคลเราทุกคนต่างเคยประสบกับปัญหาที่มีอยู่ในปัจจุบันเวลาส่งเงินให้เพื่อน ครอบครัว และคนที่คุณรัก PayID ตอบโจทย์เรื่องนี้ด้วยการมอบประสบการณ์ที่ดีขึ้นแก่ลูกค้าด้วยการใช้ ID หนึ่งเดียวที่จำได้ง่ายและปลอดภัย ตัวอย่างเช่นคุณสามารถส่งเงินจากบัญชี DeeMoney ไปยังบัญชี Coins.ph ได้
เราใช้คำว่า Universal ID เป็นเพราะลักษณะของ PayID คือการใช้ไอดีเดียวกันได้กั
ปัจจุบันมีแพลตฟอร์ม e-payment
และ apps มากมายในท้องตลาด
ทำไมเราถึงมองหารูปแบบการชำระเงินใหม่เช่น PayID?
เคลวิน ลี : ปัจจุบันผู้คนมีทางเลือกแอปพลิเคชั่นการชำระเงินมากขึ้นกว่าเดิม
อย่างไรก็ตามแม้จะมีนวัตกรรมออกมามากมาย
ก็ยังไม่มีมาตรฐานสากลใดที่ใช้เชื่อมต่อเครือข่ายการชำระเงินที่แตกต่างกันเหล่านี้
และกลายเป็นปัญหาที่ดูยากขึ้นเมื่อคุณลองคิดดูว่าแต่ละบุคคลก็มักจะมีรหัส ID การชำระเงินที่ยาวและจำยากสำหรับแต่ละระบบการชำระเงินที่ใช้อยู่
ยกตัวอย่างเช่นบัตรเครดิต เป็นต้น รหัสบนบัตรนั้นนอกจากจะยากต่อการจดจำแล้ว
มันยังง่ายที่จะเกิดข้อผิดพลาดอันเกิดจากการที่เราใส่รหัสผิด ดังนั้น PayID
จึงได้ถือกำเนิดมาเพื่อแก้ไขปัญหาต่างๆ นี้ด้วย ID การชำระเงินมาตรฐานสากล
ทุกวันนี้มีเครือข่ายและแพลตฟอร์มการชำระเงินมากมายหลายร้อยแบบ
แต่บริการเหล่านี้ยังถูกปิดกั้นจากกันและกัน ถ้าคุณต้องส่งเงินจากบัญชี PromptPay ไปยัง LINE
Pay หรือ TrueMoney คุณจะรู้ในทันทีเลยว่านี่เป็นปัญหาที่ไม่ควรเกิดขึ้นในโลกดิจิทัลทุกวันนี้
ยิ่งไปกว่านั้น มีการคาดกันว่ายอดการชำระเงินผ่านช่องทางดิจิทัลจะเพิ่มขึ้นถึง
15% ภายในปี 2020
นี้ เนื่องจากการระบาดใหญ่ทั่วโลกของ COVID-19
ในประเทศไทย ePayment
เติบโตแบบก้าวกระโดดอันเป็นผลมาจากการที่ธนาคารพาณิชย์ต่างๆ
พากันลดค่าธรรมเนียมในการใช้บริการผ่าน internet-mobile banking และภาครัฐบาลก็สนับสนุนให้เกิดการใช้งานผ่าน PromptPay และ QR Code ดังนั้นยิ่งเครือข่ายการชำระเงินต่างๆ
ยังคงไม่เชื่อมต่อถึงกัน ผู้ใช้งานก็จะยิ่งรู้สึกถึงปัญหานี้ได้อย่างชัดเจนมากขึ้น
โปรโตคอลสากลสำหรับการชำระเงินจะช่วยลดความยุ่งยากระหว่างระบบเครือข่ายการเงิน กระเป๋าเงิน และกระบวนการชำระเงินที่แตกต่างกัน ซึ่งทำให้การส่งและรับเงินนั้นมีความยุ่งยาก PayID ช่วยแก้ปัญหาการทำงานร่วมกันที่มีอยู่ในปัจจุบันเมื่อต้องส่งเงินไปให้ครอบครัว เพื่อน และคนที่คุณรัก และช่วยให้ทุกคนสามารถส่งเงินได้อย่างสะดวกผ่านเครือข่ายพันธมิตรที่เข้าร่วมกับ PayID
มีประเทศไหนในภูมิภาคเอเชียอาคเนย์ที่นำแพลตฟอร์ม
PayID
มาใช้บ้าง?
เคลวิน ลี : ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
มีผู้ที่เข้าร่วม Open Payments Coalition ประกอบด้วย
6 บริษัท อาทิ DeeMoney จากประเทศไทย Coins.ph จากฟิลิปปินส์ รวมถึงบริษัทอื่นๆ ที่มาจากภูมิภาคนี้เช่น GoPay,
Huobi Liquid
นับเป็นครั้งแรกของโครงการระดับโลก (global
initiative) ในเรื่องนี้ที่เป็นการรวมตัวกันของพันธมิตรกว่า 40 รายจากสายธุรกิจการเงิน
เทคโนโลยี และองค์กรไม่แสวงหาผลกำไร
ที่เมื่อรวมตัวกันแล้วสามารถเข้าถึงผู้บริโภคกว่า 100 ล้านคนทั่วโลก
ริปเปิลมีส่วนร่วมในเรื่องนี้อย่างไร -
ทั้งในด้านการสนับสนุนและเทคโนโลยี?
เคลวิน ลี : Xpring
ซึ่งเป็นส่วนงานด้านนักพัฒนาของ Ripple คอยให้การสนับสนุนบริษัทต่างๆ
ที่ต้องการติดตั้งเซิร์ฟเวอร์ PayID ของตนเอง และ Ripple
เองก็จะให้บริการสนับสนุน PayID ภายใต้ RippleNet
ซึ่งเป็นเครือข่ายระบบชำระเงินของเรา
สิ่งสำคัญก็คือว่า PayID
ได้รับการออกแบบโดยนักพัฒนาซอฟต์แวร์เพื่อนักพัฒนาซอฟต์แวร์ PayID
เป็นโปรโตคอลแบบ web-based ที่สร้างขึ้นจากเทคโนโลยีที่ได้รับการพิสูจน์และใช้กันแพร่หลาย
โดยเฉพาะโพรโทคอล PayID ทำงานผ่าน HTTP API ที่ปลอดภัยและเป็นไปตามมาตรฐานของ web security stack เช่น TLS
การปรับใช้และการบำรุงรักษาเซิร์ฟเวอร์ PayID
นั้นง่ายและตรงไปตรงมา ด้วยเซิร์ฟเวอร์ PayID ของแต่ละบริษัทๆ
ก็จะควบคุมข้อมูลของลูกค้าของตนได้เอง
โดยให้ลูกค้าเข้าถึงระบบได้ผ่านชื่อโดเมนเช่นอีเมล ดังนั้นบริษัท
สามารถควบคุมชื่อโดเมน PayID และข้อมูลลูกค้าได้อย่างเต็มที่
รวมทั้งสามารถปรับใช้งานเซิร์ฟเวอร์ได้อย่างมั่นใจในขณะที่ให้การปกป้องความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยของของข้อมูลลูกค้าด้วย
มีพันธมิตรจากประเทศไทยเข้าร่วมหรือไม่?
เคลวิน ลี : DeeMoney
เป็นพันธมิตรที่เข้าร่วม Open Payments Coalition จากประเทศไทย ณ ขณะนี้มีพันธมิตรที่ร่วมก่อตั้งมากกว่า 40
รายและเราคาดว่าจะมีมาเพิ่มอีกเรื่อยๆ
แพลตฟอร์ม PayID ปลอดภัยไหม?
เคลวิน ลี : แน่นอน PayID
ใช้ประโยชน์จากมาตรฐานเว็บเทคโนโลยีและมาตรฐานระบบรักษาความปลอดภัยรูปแบบเดียวกันกับที่ใช้กับอีคอมเมิร์ซและธนาคารออนไลน์ในปัจจุบัน
นอกจากนี้การติดตั้งเซิร์ฟเวอร์ PayID ไม่เพียงแค่ปลอดภัยเท่านั้น
แต่ยังทำได้ง่าย
ทุกคนที่ใช้งานเว็บแอปพลิเคชั่นทุกวันนี้ต่างก็คุ้นเคยกับรูปแบบภัยคุกคามและการตั้งค่าระบบรักษาความปลอดภัยอยู่แล้ว