ก.ล.ต. เตรียมปรับปรุงพ.ร.บ. หลักทรัพย์ฯ ให้มีความยืดหยุ่นและทันสมัยยิ่งขึ้นรองรับเทคโนโลยีใหม่

ก.ล.ต. เปิดรับฟังความคิดเห็นเกี่ยวกับการปรับปรุงพ.ร.บ. หลักทรัพย์ฯ ให้มีความยืดหยุ่นทันสมัย และไม่เป็นอุปสรรคในทางปฏิบัติเพื่อรองรับการใช้เทคโนโลยีใหม่ ๆ ในการระดมทุนการซื้อขาย การชำระราคาและการส่งมอบหลักทรัพย์
สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์
(ก.ล.ต.) อยู่ระหว่างเสนอปรับปรุงพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ.
2535 (พ.ร.บ.หลักทรัพย์ฯ)ในประเด็นต่างๆ เพื่อให้มีความยืดหยุ่นทันสมัย
และไม่เป็นอุปสรรคในทางปฏิบัติ และให้รองรับรูปแบบใหม่ ๆ ของการระดมทุน การซื้อขาย
การชำระราคาและส่งมอบหลักทรัพย์ที่มีการนำเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้ซึ่งจะช่วยส่งเสริมการแข่งขัน รวมทั้งปรับปรุงการกำกับดูแลในเรื่องเดียวกันให้มีความสอดคล้องกัน
เพิ่มประสิทธิภาพ และมีการคุ้มครองผู้ลงทุนที่เหมาะสมยิ่งขึ้น ก.ล.ต.
จึงเปิดรับฟังความคิดเห็นต่อหลักการปรับปรุงพ.ร.บ.หลักทรัพย์ฯ
โดยแบ่งออกเป็น6ส่วนซึ่งสรุปเป็นสาระสำคัญดังนี้
(1) การแก้ไขเพื่อรองรับการออกเสนอขายโทเคนดิจิทัล โดยปรับปรุงบทนิยามของ “หลักทรัพย์” ในมาตรา 4 ให้ยืดหยุ่นและครอบคลุมถึงสินทรัพย์อื่น ๆ ที่มีลักษณะ (substance) เหมือนหรือคล้ายกับหลักทรัพย์ และปรับปรุงถ้อยคำในมาตราต่างๆ ใน พ.ร.บ.หลักทรัพย์ฯ เพื่อให้รองรับการซื้อขายหลักทรัพย์แบบดิจิทัล
(2) การแก้ไขในประเด็นศูนย์ซื้อขายหลักทรัพย์
โดยปรับปรุงบทบัญญัติที่เกี่ยวข้องกับการจัดตั้งคุณสมบัติของผู้ขอรับอนุญาต
การประกอบธุรกิจและการเลิกศูนย์ซื้อขายหลักทรัพย์โดยศูนย์ซื้อขายหลักทรัพย์จะรองรับการซื้อขายหลักทรัพย์และโทเคนดิจิทัลที่มีลักษณะคล้ายกับหลักทรัพย์
นอกจากนี้ ได้ปรับปรุงคุณสมบัติของกรรมการ
ผู้บริหารและผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของศูนย์ซื้อขายหลักทรัพย์
สำนักหักบัญชีและศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ให้สอดคล้องกับบุคลากรในธุรกิจหลักทรัพย์
เพื่อประโยชน์ของผู้ใช้บริการ
(3) การแก้ไขเพื่อเพิ่มความชัดเจนในการคุ้มครองทรัพย์สินของผู้ฝากหรือลูกค้าของผู้ฝากหลักทรัพย์กรณีศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ล้มละลายและเพิ่มความชัดเจนในสิทธิความเป็นเจ้าของหลักทรัพย์ของผู้ฝากหลักทรัพย์หรือลูกค้าของผู้ฝากหลักทรัพย์
(4) การแก้ไขเพื่อยกระดับการกำกับดูแลตลาดหลักทรัพย์ให้เป็นมาตรฐานสากลโดยให้อำนาจคณะกรรมการ ก.ล.ต. กำหนดเกณฑ์ประกอบธุรกิจเพื่อให้ตลาดหลักทรัพย์เกิดความชัดเจนในการปฏิบัติหน้าที่เพื่อบรรลุภารกิจและความคาดหวังตามกฎหมายรวมถึงลงโทษเมื่อฝ่าฝืนกฎเกณฑ์หรือคำสั่ง
(5) การแก้ไขเพื่อยกระดับการกำกับดูแลผู้สอบบัญชีที่ตรวจสอบงบการเงินของตลาดหลักทรัพย์และศูนย์ซื้อขายหลักทรัพย์ โดยกำหนดให้ผู้สอบบัญชีต้องได้รับความเห็นชอบจาก ก.ล.ต.และต้องสังกัดในสำนักงานสอบบัญชีที่ได้รับความเห็นชอบจาก ก.ล.ต. ทั้งนี้ ผู้สอบบัญชีดังกล่าวต้องไม่เป็นกรรมการ ผู้จัดการ พนักงานหรือลูกจ้างของตลาดหลักทรัพย์หรือศูนย์ซื้อขายหลักทรัพย์ แล้วแต่กรณี
(6)
การแก้ไขเพื่อขยายขอบเขตมาตรการป้องกันการกระทำอันไม่เป็นธรรมให้ครอบคลุมการซื้อขายหลักทรัพย์ในทุกช่องทางการซื้อขาย
(trading platform/venue)
นอกจากนี้ ก.ล.ต.
ได้เสนอปรับปรุงบทบัญญัติในพระราชบัญญัติสัญญาซื้อขายล่วงหน้า พ.ศ. 2546
ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับกรรมการ ผู้บริหาร
และผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของศูนย์ซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าและสำนักหักบัญชีสัญญาซื้อขายล่วงหน้าให้มีความสอดคล้องกับบุคลากรในธุรกิจสัญญาซื้อขายล่วงหน้า
ทั้งนี้ ก.ล.ต.
ได้เผยแพร่เอกสารรับฟังความคิดเห็นในเรื่องดังกล่าวไว้ที่เว็บไซต์ ก.ล.ต. https://www.sec.or.th/TH/Pages/PB_Detail.aspx?SECID=674 ผู้เกี่ยวข้อง และผู้ที่สนใจสามารถแสดงความคิดเห็นได้ที่เว็บไซต์
หรือทาง e-mail :
thitika@sec.or.th, patarasaya@sec.or.th, sarochac@sec.or.th, sarochat@sec.or.th หรือ
thanapatk@sec.or.th จนถึงวันที่
24 ธันวาคม 2563