ทำความรู้จัก Metaverse เทรนด์การลงทุนมาแรงปี 2565

กระแสการลงทุนภายใต้แนวคิด หรือ ธีม เมตาเวิร์ส
(Metaverse) มาแรงหลังจาก มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก
ได้รีแบรนด์เฟซบุ๊ก (Facebook) ไปเป็นเมตา (Meta) โดยในปี
2565
นี้จะได้เห็นอุตสาหกรรมกองทุนรวมไทยคึกคักกันตั้งแต่ต้นปีเลยทีเดียว
Metaverse คืออะไร และควรเริ่มลงทุนหรือไม่?
ก่อนอื่นมาทำความรู้จัก Metaverse ก็คือโลกเสมือนจริง
ที่พาผู้คนหรือผู้ใช้งานสามารถทำกิจกรรมต่างๆ ร่วมกัน เช่น การปฏิสัมพันธ์
การเล่นเกมออนไลน์ การทำงานร่วมกัน โดยอาศัยเทคโนโลยี การใช้ความเป็นจริงเสมือน (VR)
หรือเทคโนโลยีโลกเสมือนผสานโลกแห่งความจริง (AR) รวมไปถึงเป็นอีกช่องทางการสร้างรายได้ไปจนถึงการสร้างเศรษฐกิจใหม่
ทำให้มีการคาดการณ์ว่าจะเป็นการเปลี่ยนเข้าสู่อีกยุคหนึ่งของอินเทอร์เน็ต
อย่างไรก็ดี นักวิเคราะห์ บริษัท มอร์นิ่งสตาร์
รีเสิร์ช (ประเทศไทย) มองว่า เรื่องของเทคโนโลยี Metaverse นั้น
อาจจะไม่ใช่เรื่องใหม่ทั้งหมด
เพียงแต่เราอาจจะกำลังเปลี่ยนเข้าสู่การเชื่อมต่อแบบใหม่โดยไม่รู้ตัว เช่น
การที่คนเราใช้เวลากับหน้าจอมือถือเป็นเวลาหลายชั่วโมงต่อวัน เพื่อติดตามข่าวสาร
พูดคุยกับเพื่อน เพื่อความบันเทิงที่สนใจ
ซึ่งสิ่งเหล่านี้ทำให้เราใช้เวลาอยู่กับโลกจริงน้อยลง
เกมส์ออนไลน์เป็นตัวอย่างหนึ่งที่พอจะให้เห็นภาพได้ว่า
Metaverse จะมีลักษณะอย่างไร เพียงแต่อาจยังไม่เป็น 3
มิติอย่างเต็มรูปแบบ เกมส์ออนไลน์ในปัจจุบัน
มีรูปแบบของการมีผู้เล่นออนไลน์จำนวนมากที่สร้างตัวตนในเกมขึ้นมา
เพื่อเล่นไปพร้อมกันในระบบเดียวกัน ผู้เล่นมีปฏิสัมพันธ์กันที่ทำให้เกิดการซื้อ-ขาย
หรือสร้างไอเทมเพื่อตัวละคร โดยใช้เงินในระบบของแต่ละเกม ขณะเดียวกัน
บริษัทยักษ์ใหญ่ก็เริ่มหันมาให้ความสนใจที่จะสร้างสินค้าในรูปแบบ Digital และในบางครั้งไอเทมเหล่านั้นอาจมีราคาสูงจนทำให้หลายคนประหลาดใจ
เปิดพอร์ต กองทุน Metaverse ในต่างประเทศ
นักวิเคราะห์มอร์นิ่งสตาร์ฯ ระบุว่า
จากความสนใจที่เพิ่มขึ้น
ทำให้มีการคาดการณ์มูลค่าเศรษฐกิจใหม่ที่อาจมีมูลค่ามหาศาล
และนำไปสู่การลงทุนของบริษัทต่างๆ เพื่อรับกับความเปลี่ยนแปลง
โดยอาจเป็นทั้งในส่วนของผู้ให้บริการระบบ สินค้าและบริการในระบบนิเวศ (Ecosystem)
ไปจนถึงฮาร์ดแวร์
อุปกรณ์และโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็นต่อการเข้าสู่โลกเสมือน ทำให้ในปี 2564
เริ่มมีการเปิดกองทุนในธีมของ Metaverse ออกมาบ้างแล้วใน สหรัฐอเมริกา แคนาดา
รวมทั้ง เกาหลีใต้
กองทุน Roundhill Ball Metaverse (META) เป็นกองทุนในธีมนี้ที่ใหญ่ที่สุดในปัจจุบันด้วยมูลค่ากว่า 800 ล้านดอลลาร์ โดยมีการเปิดกองทุนในกลางปีที่ผ่านมา หากดูในหุ้นที่ลงทุนนั้นจะพบว่าหลายบริษัทเป็นชื่อที่คุ้นเคยกันดีอยู่แล้วเช่น NVIDIA (NVDA), Microsoft (MSFT), Meta Platforms (FB) รวมทั้งแพลตฟอร์มเกม Roblox Corp (RBLX) ที่มีจำนวนผู้เล่นเติบโตได้ดีในช่วงที่โควิด-19 มีการระบาดใหญ่ทั่วโลก
หากเปรียบเทียบกองทุนธีม Metaverse จะพบว่า
มีการลงทุนคล้ายกันบางส่วน โดยมีค่า Common Holdings Score มากกว่า
20% เป็นส่วนใหญ่
หรือหมายความว่ามีการลงทุนในหุ้นที่เหมือนกันมากกว่า 20%
สำหรับกองทุน KB Global Metaverse Economy และ Samsung Global Metaverse จากเกาหลีใต้
นอกจากรายชื่อหุ้นที่คล้ายกับกองทุน META แล้วจะมีความแตกต่างคือมีสัดส่วนของบริษัทในประเทศจากวงการ
K-pop เกมส์ออนไลน์ รวมทั้งบริษัท Internet ขนาดใหญ่อย่าง
NAVER Corp.
เปรียบเทียบ META กับกองทุนหุ้นเทคฯ
มอร์นิ่งสตาร์ ยังระบุอีกว่า หากนำกองทุน META
มาเทียบกับกองทุนหุ้นเทคโนโลยีที่กองทุนไทยลงทุนอยู่ในปัจจุบันจะพบว่ามีค่า
Common Holding ที่แตกต่างกัน หากเป็นกองทุนเทคโนโลยีที่เป็นมีลักษณะเจาะจงที่ชัดเจนและต่างออกไปก็จะมีค่า
Common Holding Score ที่ต่ำ เช่น Fintech, Robotics, Cloud
Computing ในขณะที่กองทุนที่มีหุ้นเกี่ยวกับ Metaverse
เช่น Gaming และ Semiconductor ก็จะมีการลงทุนใกล้เคียงกับ
META มากกว่า
ทั้งนี้ การลงทุนที่คล้ายกันของกอง Metaverse
กับกองทุนเทคโนโลยีอื่นนั้นอาจมีสาเหตุมาจาก Metaverse นั้น
ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้นในแง่ของการลงทุนของบริษัทขนาดใหญ่
และยังคาดการณ์ได้ยากว่าเทรนด์นี้จะเกิดขึ้นอย่างเป็นรูปร่างชัดเจนหรือไม่
และเมื่อใด และใครจะเป็นผู้ชนะในตลาดนี้ สิ่งที่เกิดขึ้นในตอนนี้คือแพลตฟอร์มเกมออนไลน์นั้นยังคงได้รับความนิยม
ขณะเดียวกัน Gadget อย่าง VR ก็ยังเป็นสินค้าในตลาด
รวมทั้งชิปคอมพิวเตอร์ยังคงมีการพัฒนาประสิทธิภาพสูงขึ้น
ซึ่งบริษัทเหล่านี้เป็นธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการเกิดขึ้นของ Metaverse
อย่างไรก็ดี Metaverse ก็มีประเด็นความท้าทายเช่นกัน
โดยเฉพาะในเรื่องของจิตวิทยา
ประสบการณ์หรืออารมณ์ความรู้สึกที่เกิดขึ้นจากการอยู่ในโลกเสมือน
และเรื่องความปลอดภัยทางไซเบอร์ ข้อมูลความเป็นส่วนตัวที่เกิดจากการใช้ Gadget
ต่างๆ
กองทุนเปิดเอ็มเอฟซี เมตาเวิร์ส อิควิตี้ (M-META)
ถือเป็นกองทุนแรกของไทยที่เน้นลงทุนในธุรกิจที่จะได้รับประโยชน์จากกิจกรรมทางเศรษฐกิจของเมตาเวิร์สโดยตรง
ได้ลงทุนในหน่วยลงทุนของ Roundhill Ball Metaverse ETF (META ETF) (กองทุนหลัก)
ซึ่งเป็น ETF กองทุนแรกในสหรัฐอเมริกา
ที่ลงทุนในธุรกิจเกี่ยวข้องกับ Metaverse โดยตรงด้วยวิธีการประเมินอนาคตของบริษัท
โดยกองทุนหลักจะลงทุนตาม Metaverse
Market Map (การจัดกลุ่มประเภทธุรกิจจากการประเมินความเชื่อมโยงที่มีต่อ
Metaverse) ที่คณะผู้เชี่ยวชาญเป็นผู้กำหนดรายละเอียดการคาดการณ์ของบริษัทที่มีธุรกิจเกี่ยวข้อง
และได้ประโยชน์จาก Metaverse ในอนาคต โดยพิจารณาข้อมูลจากการบริษัท
และการยื่นจดสิทธิบัตร การประเมินอุตสาหกรรมของหน่วยงานอื่น
ข้อมูลการใช้งานและตัวชี้วัดของหน่วยงานอื่น การอัปเดตทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
การนำเสนอของผู้บริหารในบริษัทดังกล่าว และการสัมภาษณ์ผู้บริโภค
และคณะผู้เชี่ยวชาญมีการติดตาม ทบทวน ปรับ Metaverse Market Map ทุกไตรมาส
ตามการพัฒนาการ บริษัท เทคโนโลยีและพฤติกรรมของผู้บริโภค
Esports - Cloud : เกาะกระแส Metaverse
วรสินี เศรษฐบุตร
ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายพัฒนาผลิตภัณฑ์กองทุน และสื่อสารการตลาด สายธุรกิจธนบดี
ธนาคารทิสโก้ มองว่า หากหลังจากนี้ประเทศต่างๆ ต้องตัดสินใจล็อกดาวน์อีกครั้ง
จากการแพร่ระบาดของไวรัส ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับ Metaverse ก็จะยังสามารถเติบโตสวนทางกับธุรกิจกลุ่มวัฏจักรเศรษฐกิจ
(Cyclical) เช่น หุ้นกลุ่มพลังงาน (Energy) กลุ่มธุรกิจการเงิน
(Financials) กลุ่มสินค้าอุตสาหกรรม (Industrials) และกลุ่มสายการบิน
(Airlines) ซึ่งมีแนวโน้มปรับตัวลดลงจากไวรัสได้
โดยธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับ Metaverse ซึ่งธนาคารทิสโก้แนะนำให้ลงทุน
ได้แก่ Esports ธุรกิจด้านเกมและกีฬาอิเล็กทรอนิกส์ และ Cloud
Computing ธุรกิจเบื้องหลังความสำเร็จของเทคโนโลยีแห่งอนาคต
เนื่องจากที่ผ่านมาทั้ง 2 ธุรกิจนี้ได้พิสูจน์ตัวเองแล้วว่า
สามารถสร้างผลตอบแทนได้เป็นอย่างดี แม้จะต้องเผชิญกับการแพร่ระบาดของไวรัส
เห็นได้จากข้อมูลในอดีตนับตั้งแต่ปี 2563
ซึ่งเป็นช่วงแรกที่โควิด-19 ระบาด หุ้น Esports และ
Cloud Computing ก็สามารถสร้างผลตอบแทนก้าวกระโดด โดยหุ้นกลุ่ม Video
Games และ Esports สร้างผลตอบแทนได้สูงถึง
84.25% และหุ้นกลุ่ม Cloud Computing สร้างผลตอบแทนได้ถึง
77.08%
สุดท้ายนี้มีคำแนะนำจากนักวิเคราะห์มอร์นิ่งสตาร์ว่า
ผู้ลงทุนที่สนใจควรทราบว่าการลงทุนใน Metaverse นั้น
เป็นลักษณะของแนวคิด หรือธีมการลงทุน
จึงควรพิจารณาว่าผู้ลงทุนมีความมั่นใจในธีมนี้มากน้อยเพียงใด
และคาดหวังการเติบโตของ Metaverse ในช่วงระยะเวลาใดเพื่อให้ปรับเข้ากับแผนการลงทุนของตนเองได้อย่างเหมาะสม